สำหรับแบดมินตัน กล่าวได้ว่า”อาเซียน” มีหลายชาติที่มีนักแบดมินตันฝีมือดี โดยในยุคปัจจุบัน ถือว่า”อินโดนีเซีย” ยังเป็น”เบอร์หนึ่ง”ของอาเซียน รองมาเป็นไทยและมาเลเซีย ที่ถือว่ามีผลงานไม่แตกต่างกันมาก แต่ในโอลิมปิก 2016 “มาเลเซีย”ถือเป็นชาติที่ประสบความสำเร็จ เพราะสามารถเข้าชิงถึง 3 เหรียญทอง แต่อินโดนีเซีย กลับเป็นประเทศที่ได้เหรียญทอง ทั้งๆที่เข้าชิงเพียงคู่ผสมเท่านั้น
   
สำหรับมาเลเซียแล้ว เป็นเรื่องปกติที่จะนำตัวเองมาเปรียบเทียบกับประเทศไทย เพราะ”แบดมินตัน” เป็นหนึ่งในกีฬาไม่กี่อย่างที่มาเลเซียมองว่าพวกเขามีผลงาน”ดีกว่า”ประเทศไทยในเวทีการแข่งขันกีฬาระดับโลก 
 

อย่างไรก็ตาม ในยุคปัจจุบัน แม้กล่าวได้ว่า”มาเลเซีย”มีทีมแบดมินตันที่”เหนือกว่าไทย” โดย Lee Chong Wei เป็นนักแบดมือ 1 โลกและยกระดับขึ้นเป็น”ตำนาน”ผู้เล่นชายเดี่ยว ขณะที่ V Shem GOH กับ Wee Kiong TAN ก็เคยขึ้นเป็นมือ 1 โลกในประเภทชายคู่ และ Peng Soon CHAN กับ Liu Ying GOH ก็มีผลงานดีในประเภทคู่ผสม

แต่สิ่งที่มาเลเซียมองว่าเป็น”ปม”ก็คือนักแบดมินตันระดับ Lee Chong Wei ยังไม่เคยเป็น”แชมป์”รายการใหญ่ระดับชาติ ทั้งโอลิมปิก เอเชียนเกมส์ หรือแม้แต่”แชมป์โลก” ซึ่งต่างจากไทย ที่”เมย์”รัชนก อินทนนท์ เคยคว้าแชมป์โลกหญิงเดี่ยวเมื่อปี 2013

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ไทยและมาเลเซีย แข่งขันและขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดในเวทีแบดมินตันโลก
 

สำหรับชายเดี่ยวนั้น แน่นอนว่า Lee Chong Wei เป็นนักแบดมินตันที่สร้างประวัติศาสตร์ไว้ยากที่จะมีคนทำลายสถิติ แต่ในอีกมุม มันกลายเป็น”ปัญหาใหญ่”ของแบดมินตันมาเลเซียที่จะสร้าง”ตัวแทน” เพราะ”มือรอง”อย่าง Iskandar ZULKARNAIN มือ 28 โลกก็ยังไม่การันตีว่าจะสานต่อได้หรือไม่ ส่วน Zulfadli ZULKIFFLI ก็อยู่อันดับ 32 และ Wei Feng CHONG ที่เคยเป็นความหวังใหม่ ก็อยู่อันดับ 43 แต่ก็ยังดีกว่าไทย  ที่มีเพียง”สอง”ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข ที่ติดอันดับ 11 รองมาเป็น”ซูเปอร์แมน”บุญศักดิ์ พลสนะ ที่เลิกเล่นทีมชาติไปแล้ว

ขณะที่”หญิงเดี่ยว” ดูเหมือนมาเลเซียจะยังหานักแบดมินตันมือดีไม่ได้ นับแต่ Soniia CHEAH อดีตมือ 1 ของทีมได้รับบาดเจ็บหนักและพยายามเรียกฟอร์มเก่งมา แต่ก็ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมา โดยอยู่อันดับ 44 ของโลกขณะที่  Jing Yi TEE ที่เคยมาเป็นมือ 1 ระยะหนึ่งก็เริ่ม”ถอดใจ”ขอไปเล่นประเภทคู่(แม้อันดับโลกจะยังอยู่ที่36ประเภทหญิงเดี่ยว) ส่วน Ying Ying LEE ที่ถูกเรียกตัวติดทีมชาติไปแข่งขันประเภททีมผสมชิงแชมป์เอเชีย ก็ยังอยู่อันดับ 64 และมี Yen Mei HO อยู่อันดับ 57
 

ต่างจากไทย ที่ถือเป็นชาติที่มีนักแบดมินตันหญิงเดี่ยวฝีมือดีมากมาย ตั้งแต่เมย์ รัชนก อินทนนท์ อยู่อันดับ 7 ครีม บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ อันดับ 12 พีซ พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข อันดับ 16 แน๊ต ณิชชาอร จินดาพล อันดับ 17 และ หมิว พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ อันดับ 38

ในประเภทหญิงเดี่ยว มาเลเซียคาดหวังที่จะเห็น”สาวน้อยมหัศจรรย์” Goh Jin Wei นักแบดมือ 31 โลกเป็นคนที่จะมาสร้างตำนานใหม่ แต่ถึงตอนนี้ สาวน้อยวัย 17 ก็ยังไม่สามารถสร้างผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน และเมื่อขึ้นเวทีใหญ่ ก็จะ”ตกม้าตาย”หลายครั้งหลายครา จนทีมแบดมินตันมาเลเซียเริ่มมองหา”คนใหม่”มาเสริมหรือเพื่อทดแทน Goh Jin Wei หากในปีสองปีนี้ไม่มีผลงานอะไร เพราะถึงตอนนี้ เธอก็พ้นวัยที่จะเป็น”เยาวชน”แล้ว
 

นี่จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะมาเลเซียและไทย มองตรงกันในเรื่อง”นักแบดชุดบี” ที่จะต้องเร่งสร้างประสบการณ์และผลงาน โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งมาเลเซียและไทย เลือกส่งนักแบดมินตัน”ชุดบี”ออกไปแข่งเพื่อหาประสบการณ์พร้อมกัน แต่เลือกคนละเวที ในการแข่งขันระดับ International Challenge โดยมาเลเซีย ส่งทีมไปแข่งขันรายการ YONEX Polish Open 2017 ที่กรุงวอซอว์ ประเทศโปแลนด์ ขณะที่ไทยเลือกไปแข่งขันที่เวียดนามในรายการ CIPUTRA HANOI - YONEX SUNRISE Vietnam International Challenge 2017

ผลงานของ”นักแบดชุดบี”ของมาเลเซีย ถือว่า”สอบผ่าน” เพราะสามารถเข้าชิง 2 ประเภท และ Jia Wei TAN สามารถคว้าแชมป์ชายเดี่ยว เมื่อเอาชนะ Ygor COELHO มือวางอันดับ 4 จากบราซิล 2-1 เกม 21-13 , 20-22 และ 21-10 ขณะที่ Ying Ying LEE ในฐานะมือ 6 ของรายการ ได้แค่”รองแชมป์หญิงเดี่ยว”เมื่อแพ้ Yui HASHIMOTO มือ 3 ของรายการจากญี่ปุ่น 1-2 เกม 21-13 ,19-21 และ 10-21
 

ขณะที่ทีมแบดมินตันไทย ก็โชว์ผลงานดีที่เวียดนาม โดยเข้าชิงถึง 3 ประเภท และ "หมิว"พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ก็คว้าแชมป์โดยเอาชนะ VU Thi Trang (B) มือวางอันดับ 1 ของรายการจากเวียดนาม 21-16 และ 21-17 ส่วน "เพชร"โฆษิต เพชรประดับ ในประเภทชายเดี่ยว และ  "เน็ต-เบน"ตราวุธ โพธิ์เที่ยง กับ นันทกานต์ ยอดไพสง นักแบดชายคู่ ได้รองแชมป์

แต่ก็เป็นแนวทางที่ถูกต้อง ที่ส่งนักกีฬาไปแข่งขัน ในช่วงที่ประเทศไทยไม่มีลีกแบดมินตันในประเทศให้นักกีฬาลงแข่งทดสอบฝีมือ
 

ที่สำคัญ เชื่อว่าจากนี้ไป “ไทย-มาเลเซีย”จะยังต้องขับเคี่ยวกันในหลายเวที ทั้งนักแบดมินตันแถวหนึ่งและแถวสอง โดยเริ่มจาก TOTAL BWF Sudirman Cup 2017 ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม จากนั้นก็เป็นศึกชิงแชมป์โลกที่สก๊อตแลนด์ในเดือนสิงหาคม ซึ่งตรงกับการแข่งขันซีเกมส์ในมาเลเซีย

เชื่อว่า”ศึกชิงแชมป์โลก” จะเป็นเรื่องของ”นักแบดชุดเอ”ไปแย่งชิงบัลลังก์แชมป์กัน ดังนั้น ในการแข่งขันซีเกมส์ที่มาเลเซีย จึงเป็นเรื่องของ”นักแบดชุดบี” ที่ไทยและมาเลเซีย เริ่มต้นปีนี้ด้วยการส่งไปหาประสบการณ์และสร้างผลงานในรายการ International Challenge เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากันคนละทวีป

ศึกที่ไม่มีใครยอมใครระหว่าง”ไทย-มาเลเซีย” จึงเป็นศึกแบดมินตันที่ต้องจับตามอง และอีกคนที่กำลังจับตามองพร้อมทั้งเตรียมตัวเป็น”ตาอยู่”ก็คือ”อินโดนีเซีย”

สงครามบนคอร์ตเขียว จึงสนุกสนานและต้องส่งใจเชียร์กันตลอด !!!

(ดอกปีกไก่)