อัครมหาเศรษฐีจีน....ผู้อาสาจัดแบดโลก
ทุกวันนี้ แม้แบดมินตันเป็นกีฬาที่มีอัตราการขยายตัวสูง แต่โดยรวมก็ยังถือว่า “ไม่แพร่หลาย” เหมือนกีฬายอดนิยมอย่างฟุตบอล
แต่จากนี้ไป “แบดมินตัน” อาจจะพุ่งขึ้นสู่ความนิยม เมื่อมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดของจีน อาสาเป็น “ผู้จัดการแข่งขัน” แบดมินตันให้กับสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) เป็นเวลา 8 ปี เพื่อขยายความนิยมกีฬาแบดมินตันออกไปทั่วโลก
ชายคนนี้คือ Wang Jianlin ประธานกลุ่ม Dalian Wanda ผู้ได้รับการขนานนามว่า “บุรุษที่ร่ำรวยที่สุดของจีน”
ทั้งนี้ มหาเศรษฐีแซ่หวังได้ลงนามความร่วมมือพิเศษ 8 ปีเพื่อจัดการแข่งขันแบดมินตันผ่านเครือข่ายบริษัทในสวิตเซอร์แลนด์ ที่จะครอบคลุมทั้งการตลาด การให้การสนับสนุนและสิทธิพิเศษของ BWF
“แวนด้ากรุ๊ปจะยังคงพัฒนาธุรกิจการกีฬาของเราต่อไป” ประธานหวังกล่าวและยืนยันว่า เขายังมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำระดับโลก
แน่นอนว่า Sport Marketing ผ่านแบดมินตันครั้งนี้เป็นก้าวย่างที่น่าสนใจ
สำหรับข้อตกลงที่แวนก้ากรุ๊ปลงนามกับ BWF ครั้งนี้ จะรวมถึงการควบคุมของสิทธิทางการค้าทั้งหมดเป็นเวลา 8 ปี และการแข่งขันระหว่างประเทศ 4 รายการ รวมทั้งจะให้การสนับสนุนพร้อมร่วมกิจกรรมของ BWF ในอนาคต
Thomas Lund เลขาธิการ BWF กล่าวว่า รายได้จากการจัดการแข่งขันแบดมินตัน จะมีมูลค่านับพันล้านเหรียญในช่วงระยะเวลา 8 ปีที่แวนด้าฯ เข้ามาดูแล
“เรามีความสนใจร่วมกันในการพัฒนากีฬาและรายได้จากการขยายความานิยมในการเข้าถึงกีฬานี้” เลขาธิการ BWF กล่าว
สำหรับแวนด้ากรุ๊ปของมหาเศรษฐีหวัง ถือเป็นกลุ่มทุนระดับแนวหน้าของจีนที่เข้ามาทำธุรกิจกีฬา เช่น เป็นผู้จัดการแข่งขันไตรกีฬาไอรอนแมน รวมทั้งถือหุ้นในสโมสร Atletico Madrid 20% และยังลงนามในข้อตกลงกับ 10 องค์กรกีฬาทั่วโลกที่จะเสร็จสิ้นภายในปีนี้
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนกรกฎาคม แวนด้าเซ็นสัญญาเป็นสปอนเซอร์ให้สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (Fifa) เพื่อจัดการแข่งขันรายการชิงแชมป์ในประเทศจีนในปีหน้า ที่คาดหวังว่าจะเป็นการแข่งขันฟุตบอลที่ดีที่สุดในเอเชีย รวมทั้งเป็นหุ้นส่วนพิเศษสำหรับการขยายตลาดในการจัดกิจกรรมโดยสมาคมบาสเกตบอลระหว่างประเทศ หรือ FIBA
การเคลื่อนไหวและก้าวเข้ามาสู่วงการแบดมินตันของมหาเศรษฐีที่ได้ชื่อว่า “บุรุษผู้รวยที่สุดของจีน” ครั้งนี้ ถือเป็นข่าวดีข่าวใหญ่ของวงการแบดมินตัน และอาจจะเป็น “ก้างกระโดด” ของกีฬาลูกขนไก่ ที่จะขยายความนิยมไปทั่วโลก
ขอบคุณที่มาข้อมูลและรูปภาพ http://mobile.reuters.com/article/idUSKCN1200HM
