ชื่อของ Goh Jin Wei เป็นที่รู้จักในวงการแบดมินตันโลก เมื่อเธอคว้าแชมป์หญิงเดี่ยว เยาวชนโลก หรือ BWF World Junior Championships 2015 โดยชนะเพื่อนร่วมชาติ Lee Ying Ying  แบบไม่ยาก 21-15 และ 21-16 ทันทีที่ได้แชมป์เยาวชนโลกในวัย 15 เธอก็ถูกสื่อมาเลเซียยกให้เป็น"รัชนกมาเลเซีย" ขณะที่คนมาเลเซียอีกกลุ่ม เรียกเธอว่า"ลีชองเหว่ยหญิง"

สำหรับประเทศที่ถือว่า"บ้าแบดมินตัน"ติดอันดับต้นๆ ของโลก แฟนๆ ก็คาดหวังมากว่าเธอจะขึ้นมาเป็นมือ 1 โลกตามรอบไอดอลของเธอ ...นักแบดรุ่นพี่ชาวไทยที่ชื่อ "รัชนก อินทนนท์"

Goh Jin Wei กลับมาเป็นที่รู้จักสำหรับแฟนแบดมินตันไทยอีกครั้งในรายการ YONEX SUNRISE Indonesian Masters 2016

รายการระดับ Grand Prix Gold นี้ จบการแข่งขันเมื่อวันาอาทิตย์ (11 ก.ย.59) เมื่อสาววัย 16 จากมาเลเย์แพ้มือวางอันดับ 1 ชาวไทย ครีม บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ ในรอบชิงฯ 15-21 และ 13-21 แม้จะได้แค่รองแชมป์ แต่ในรอบรองชนะเลิศ Goh Jin Wei ในฐานะมือวางอันดับ 8 ก็เอาชนะมือ 2 ของรายการจากไทย คือ แน๊ต ณิชชาอร จินดาพล มาแบบไม่ยากนัก 21-18 และ 21-5 การชนะมือ 20 ของโลกในรอบรองฯ และแพ้มือ 18 ในรอบชิงฯ ก็ถือว่ามาได้เกินคาดสำหรับนักแบดวัย 16 ที่อยู่อันดับ 50 ของโลก เธอคือตัวอย่างการวางแผนเพื่อ"สร้างคน"ของสมาคมแบดมินตันมาเลเซีย
 

Goh Jin Wei  ถูกกำหนดช่วงเวลาสำหรับการลงสนามอย่างดี เพราะแม้จะติดทีมชาติตั้งแต่อายุ 14 เมื่อปี 2014 แต่ดูเหมือนเธอยังไม่ได้ลงไปสัมผัสเกมมากนัก จนกระทั่ง Morten Frost เข้ามาเป็นประธานฝ่ายเทคนิคสมาคมแบดมินตันมาเลเซีย อดีตแชมป์โลกชายเดี่ยวชาวเดนมาร์ค เจ้าของฉายา Mr Badminton ก็เริ่มวางแผน"สร้าง" สาวน้อยคนนี้ขึ้นมาเพื่อแทนที่รุ่นพี่ที่ถึงเวลาเลิกรา โดยสาวน้อยคนนี้เป็น"เยาวชน"คนเดียวที่ถูกเรียกตัวไป"เก็บตัว-ฝึกซ้อม"ร่วมกับนักแบดทีมชาติรุ่นใหญ่ ขณะที่นักแบดทีมชาติหลายคน"หลุดโผ"เมื่อไม่มีวินัยและความมุ่งมั่น

 

ปี 2015 Goh Jin Wei จึงเริ่มถูกส่งลงแข่งขันหลายรายการ แต่ถ้าใช้ภาษาชาวบ้านก็ต้องบอกว่า"ส่งไปหากประสบการณ์" เพราะมีเพียงรายการระดับ"เยาวชน"คือ YONEX GERMAN JUNIOR 2015 เท่านั้นที่เธอคว้าแชมป์ เมื่อเอาชนะ Mia BLICHFELDT ในรอบชิง 21-9 และ 21-16  แถมตอนนั้น เธอยังเล่นประเภทคู่ผสม เมื่อจับคู่กับ Jinn Hwa TAN คว้าแชมป์รายการ YONEX DUTCH JUNIOR 2015 โดยชนะเพื่อนร่วมชาติ GOH Sze Fei กับ LEE Ying Ying 21-18, 18-21 และ 21-17 ก่อนจะคว้าแชมป์เยาวชนโลกในช่วงปลายปี  ปี 2016 Morten Frost เห็นว่า Goh Jin Wei พร้อมแล้ว โดยเธอถูกเรียกติดทีมชาติมาเลเซียลงแข่งชิงแชมป์เอเชีย ซึ่งถือเป็นการลงสนามพบนักแบดรุ่นใหญ่เป็นครั้งแรก และในเดือนเมษายน Goh Jin Wei ก็คว้าแชมป์ระดับอาชีพครั้ง

แรกในรายการ ORLEANS INTERNATIONAL 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเอาชนะ Fitriani Fitriani จากอินโดนีเซีย ในรอบชิง 15-21 , 21-10 และ 21-7 ในเดือนเมษายน เธอลงแข่งในนามทีมชาติมาเลเซียในรายการ Uber Cup Finals 2016 และเป็นโอกาสดีที่ได้เจอ"ของจริง" และได้รู้ฝีมือตัวเอง เมื่อแพ้  Wang Yihan ของจีน 16-21 และ 14-21 ชนะ Mette Poulsen จากเดนมาร์ค 21-18 และ 21-13 ปิดท้ายแพ้ Carolina Marin แชมป์โลกจากสเปน 18-21 ,22-20 และ 16-21 

ถัดมา ในรายการระดับ superseries คือ XIAMENAIR AUSTRALIAN BADMINTON OPEN รอบแรก ชนะ Michelle Li จากแคนาดา 21-18 และ 21-10 ก่อนจะตกรอบ 2 เมื่อพ่าย Saina Nehwal ที่คว้าแชมป์รายการนี้ไป 12-21 และ 14-21 และมาปิดท้ายล่าสุดเป็นรองแชมป์ YONEX SUNRISE INDONESIAN MASTERS 2016 เมื่อวันอาทิตย์ 11 กันยายน 2016
 

ถึงวันนี้ Goh Jin Wei ถือเป็น"ความหวัง"ของวงการแบดมินตันมาเลเซีย ความจริงแล้ว เธอได้รับเสียงเชียร์จากชาวมาเลย์หลังคว้าแชมป์เยาวชนโลก 2015 ที่กรุงลิมา เปรู ว่าน่าจะเป็นตัวแทนมาเลเซียไปแข่งโอลิมปิก 2016 ที่ริโอ แต่ Morten Frost เลือก Tee Jing Yi เพราะเห็นว่า Goh Jin Wei ยังไม่ถึงเวลา และเชื่อว่าเธอ"พร้อมเต็มที่"ในโอลิมปิก 2020 ที่โตเกียว  ก้าวย่างในการแข่งขันของ Goh Jin Wei เป็นเรื่องน่าสนใจ เพราะนี่เป็นการวางแผนอย่างดีของ Morten Frost ร่วมกับสมาคมแบดมินตันมาเลเซียว่าควรจะส่งไปแข่งรายการไหน โดยไม่ต้องรีบเร่ง ถึงตอนนี้ แม้อาจจะยังไม่สามารถสร้างผลงานได้ดีเมื่อเจอนักแบดรุ่นใหญ่ แต่การถูกส่งไปแข่งขัน ทำให้ Goh Jin Wei ได้เรียนรู้ด้วยตัวเองว่าเธอพร้อมหรือไม่

และเป็น"การบ้าน"ให้สมาคมแบดมินตันไทย"เรียนรู้"จากเพื่อนบ้านว่า หากให้"เด็ก"อ่านหนังสือ แต่ไม่ส่งเข้า"ห้องสอบ"ก็คงตอบไม่ได้ว่า"เก่งจริง"หรือไม่

(ดอกปีกไก่)