เป็นที่รู้กันแล้วว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม การนับคะแนน Race to Paris สำหรับเก็บคะแนนไปโอลิมปิก 2024 ที่มหานครปารีส ที่จะนับไปยาวนานหนึ่งปีจนถึงวันที่ 28 เมษายน 2024 ว่าจะมีนักกีฬาคนไหนได้สิทธิ์บ้าง ในการแข่งขันที่ Porte de La Chapelle Arena ในช่วงวันที่ 27 กรกฎาคม ถึงวันที่ 5 สิงหาคม
 

โดยธรรมเนียมการปฏิบัติเก็บคะแนนจะให้สิทธิ์นักกีฬาเดี่ยว 16 อันดับแรกได้สิทธิ์โดยอัตโนมัติ ขณะที่ประเภทคู่ จะมี 8 คู่ที่ได้สิทธิ์ไปแข่งขัน จากนั้นก็จะนับโควต้าต่อมาที่จะมีการคิดโควต้าตามทวีปและกฎระเบียบแต่จะได้ชาติละหนึ่งคน โดยนักกีฬาที่จะไปแข่งขันทั้งหมดจะมี 172 คนใน 5 ประเภทที่เป็นนักกีฬาชายและหญิง 86 คนเท่ากัน โดยจะมีการคัดเลือกเพียง 83 คนในแต่ละเพศ ที่จะเว้น 1 คนสำหรับเจ้าภาพและอีก 2 คนที่โอลิมปิกสากลจะเลือกตามความเหมาะสม

 

โดยกำหนดการการคัดเลือกไปโอลิมปิก จะเริ่มนับการแข่งขันเก็บคะแนนตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2023 ถึง 28 เมษายน 2024

 

• 15 มกราคม 2024 กำหนดเวลาสำหรับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล(NOC)ในการยื่นคำร้องสำหรับโควต้าที่จะเลือก
• 28 เมษายน 2024 สิ้นสุดระยะเวลาการรับรอง
• 30 เมษายน 2024 ประกาศผลจัดอันดับนักกีฬาได้ไปแข่งขันที่ปารีส
• 8 พฤษภาคม ประเทศเจ้าภาพจะต้องยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรถึง BWF 
• 10 พฤษภาคม 2024 BWF แจ้ง NOC เกี่ยวกับโควต้าที่ได้รับการจัดสรร
• 24 พฤษภาคม 2024 NOC ยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับการใช้โควตาที่จัดสรรให้กับ BWF
• ภายในวันที่ 5 กรกฎาคม 2024 กำหนดเส้นตายสำหรับ BWF ในการจัดโควตาทั้งหมด
• 8 กรกฎาคม 2024 ครบกำหนดเส้นตายของรายชื่อนักกีฬา
• 26 กรกฎาคม – 11 สิงหาคม 2024 Olympic Games Paris 2024

 

สำหรับรายการนับคะแนนรายการแรกของโอลิมปิกครั้งนี้คือ Sudirman Cup ในวันที่ 14-21 พฤษภาคม ต่อด้วย Malaysia Masters ที่เป็นรายการระดับ 500 ที่มาเลเซียในวันที่ 23-28 พฤษภาคม และ Thailand Open รายการ Super 500 ที่ไทยในวันที่ 30 พ.ค.-4 มิ.ย. ในเดือนแรกของการแข่งขันเก็บคะแนน

 

สำหรับนักกีฬาไทยที่ได้สิทธิ์ในตอนนี้โดย Race to Paris ยังไม่ประกาศเป็นทางการ ก็มี “วิว”กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ที่อยู่อันดับ 7 ของโลกในประเภทชายเดี่ยว โดย”กัน”กันตภณ หวังเจริญ อยู่อันดับ 28 และ”โอ๊ต”สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ อยู่อันดับ 34 ที่ถือว่าไม่ง่ายที่จะได้โควตาที่ 2 ของประเภทนี้ ที่จะต้องขยับไปอยู่ 16 อันดับแรก

 

ส่วนหญิงเดี่ยว จากอันดับโลกที่จะเริ่มนับหนึ่งสำหรับการเก็บคะแนน ”เมย์”รัชนก อินทนนท์ อยู่อันดับ 7 และ”หมิว”พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ จะไปปารีสเป็นคนที่ 2 เพราะอยู่อันดับ 11 และ”ครีม”บุศนันทน์ อึ้งบำรุงพันธ์ อยู่อันดับ 18 ที่อาจจะต้องแข่งขันกับ”หมิว”เพื่อชิงโควตาที่ 2 ของไทย

   

ประเภทชายคู่ ยังเป็นงานยากสำหรับนักกีฬาไทย แม้”เอ็ม-สกาย”สุภัค จอมเกาะ / กิตินุพงษ์ เกตุเรน จะอยู่อันดับ 29 ที่น่าจะสามารถทำคะแนนได้ดี แต่จะต้องทำให้ได้อันดับดีที่สุด เพราะจะมีปัญหาว่า”โควตาเอเชีย”จะน้อยลงในอันดับต่ำเนื่องจากนักกีฬาเอเชียจะมีมากกว่านักกีฬาทวีปอื่นอยู่แล้ว

 

ประเภทหญิงคู่ ถึงตอนนี้”กิ๊ฟ-วิว”จงกลพรรณ กิติธรากุล / รวินดา ประจงใจ อยู่อันดับ 9 แต่ถ้านับตอนนี้จะได้สิทธิ์โดยอัตโนมัติ เพราะใน 8 อันดับแรกมีคู่ญี่ปุนอยู่ 3 คู่ ที่ ส่วน”มูนาอันนา”เบญญาภา เอี่ยวสอาด/ นันทกาญจน์ เอี่ยมสะอาด อยู่อันดับ 12 ทำให้ยากที่จะไปปารีส โดยต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อติด 8 อันดันแรก

 

ประเภทคู่ผสม แม้ฟอร์มยังอยู่ในช่วงไม่ดีนัก แต่”บาส-ปอป้อ”เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ก็ยังรักษาอันดับ 3 ไว้ได้ ขณะที่”เอ็ม-เฟม”สุภัค จอมเกาะ / ศุภิสรา เพียวสามพราน น่าจะลุ้นยากเพราะอยู่อันดับ 14

แฟนแบดมินตันจึงต้องร่วมใจกันเชียร์นักกีฬาไทยทุกคนให้ทำผลงานดีในช่วงหนึ่งปีจากนี้ไป โดยเฉพาะปลายเดือนนี้ ขอเชิญไปร่วมชมและให้กำลังใจในการแข่งขัน Thailand Open ถึงสนาม