ปีนี้เป็นปีสำคัญอีกครั้งของนักกีฬาทุกกีฬา เพราะในเดือนกรกฎาคม- สิงหาคม จะมีการแข่งขันโอลิมปิก 2024 ที่มหานครปารีส และเป้าหมายใหญ่ของนักกีฬาแบดมินตันทุกคนก็คือการได้ไปแข่งขันและคว้าเหียญรางวัล ซึ่งต่างจากชิงแชมป์โลกที่มีแข่งขันทุกปี ยกเว้นปีที่มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

สำหรับประเทศไทย เรามีนักแบดมินตันที่คว้าแชมป์โลกมาแล้ว 3 ประเภทคือชายเดี่ยว “วิว”กุลวุฒิ วิทิตศานต์ หญิงเดี่ยว”เมย์”รัชนก อินทนนท์ และคู่ผสม “บาส-ปอป้อ”เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย แต่เหรียญรางวัลโอลิมปิกยังไม่เคยได้ เพราะมีชิงแม้กระทั่งเหรียญทองแดง ทำให้ผู้แพ้รอบรองชนะเลิศ หากแพ้ในรอบชิงที่ 3 ก็ไม่มีเหรียญรางวัล ซึ่งต่างจากชิงแชมป์โลก ทึ่ผู้แพ้รอบรองชนะเลิศ ได้เหรียญทองแดงทั้งคู่
 

ตัวอย่างนี้คือ”แมน” บุญศักดิ์ พลสนะ ที่การแข่งขันแบดมินตันชายเดี่ยวโอลิมปิก 2004 ที่เอเธนส์ ที่แพ้ Taufik Hidayat ในรอบรองชนะเลิศ และแพ้ Sony Dwi Kuncoro ในการชิงที่ 3 จึงไม่ได้เหรียญรางวัล ซึ่งต่างจาก”กัน”กันตภณ หวังเจริญ ที่แข่งขันขิงแชมป์โลก BWF World Championships 2019 ที่สวิตเซอร์แลนด์ แพ้ Anders Antonsen ในรอบรองชนะเลิศ แต่ได้เหรียญทองแดงร่วมกับB. Sai Praneeth ที่แพ้ Kento Momota แชมป์โลกปีนั้นในรอบรองชนะเลิศ

สำหรับโอลิมปิก 2024 ถือเป็นข่าวดีที่นักกีฬาแบดมินตันไทยจะได้สิทธิ์เข้าร่วมครบทั้ง 5 ประเภท และมีโอกาสสูงที่บางประเภทจะมีนักกีฬาได้สิทธิ์ไปแข่งขัน 2 คน
 

โดยในประเภทชายเดี่ยว “วิว”กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แชมป์โลกปี 2023 ที่อันดับโลกอยู่ที่ 8 ก็ได้สิทธิเข้าร่วมโอลิมปิกประเภทชายเดี่ยวอันดับ 7 ที่ถือเป็นข่าวดีเพราะหมายถึงได้เป็นมือวาง ที่จะไม่เจอนักแบดมินตันมือทอปในรอบแบ่งกลุ่ม

 

ในประเภทหญิงเดี่ยว ที่น่าจะมีข่าวดี เพราะการชิงชนะเลิศหญิงเดี่ยวรายการ Spain Masters ระหว่าง”เมย์”รัชนก อินทนนท์ กับ”เม”ศุภนิดา เกตุทอง ที่”เมย์”ชนะและคว้าแชมป์ ทำให้”เมย์”รัชนก อินทนนท์ ที่อันดับโลกอยู่อันดับ 14 มีคะแนน Olympic Games Qualification ที่อันดับ 14 ที่ 63073 และมากพอที่จะการันตีอยู่อันดับ 9 ของโควตา ที่คงไม่มีใครมาเบียดได้ ในการนับคะแนนคัดเลือกที่เหลือเพียงรายการศึกชิงแชมป์ทวีป แต่น่ะเสียดายที่ไม่ติด 8 อันดับแรกที่หมายถึงไม่ได้เป็นมือวางกลุ่ม ที่จะเจอมือดี 8 อันดับแรกในรอบแบ่งกลุ่ม

 

ส่วนหญิงเดี่ยวอีกคนคือ”เม”ศุภนิดา เกตุทอง ก็เข้าถึงรอบชิง Spain Masters ทำให้โอกาสได้โควตาไปแข่งขันโอลิมปิกในฐานะนักแบดมินตันหญิงเดี่ยวคนทื่2 ของไทยมากขึ้น เพราะอันดับขยับจาก 17 ที่มี 55614 มาอยู่ที่ 16 มีคะแนน 57244 ในโควตาที่ 13 ในการไปโอลิมปิก

 

แต่ทั้งหมดจะชัดเจนเมื่อจบการแข่งขันรายการชิงแชมป์เอเชียในสัปดาห์หน้า ที่อาจจะมีพลิกโดย Nozomi OKUHARA แชมป์โลกหญิงเดี่ยว 2017 อาจจะแซงมาอยู่ที่ 16 ที่แม้จะไม่ได้ไปแข่งขันโอลิมปิก แต่กลายเป็นตัดสิทธิ์”เม”ที่ตกไปอันดับ 17 ทันที โดยในรอบแรก Nozomi OKUHARA จะเจอ AN Se Young จากเกาหลี ขณะที่”เม”จะเจอ CHEN Yu Fei คือทั้งคู่เจอมือวางหนึ่งและสองของรายการ ที่ทำให้การลุ้นโควตาไปโอลิมปิกของหญิงเดี่ยวไทยจะยังมีให้ตื่นเต้น

   

ส่วนประเภทชายคู่ “เอ็ม-สกาย”สุภัค จอมเกาะ / กิตินุพงษ์ เกตุเรน ที่อันดับโลกอยู่ที่ 14 แต่อันดับ Olympic Games Qualification อยู่ที่ 23 หลังจากโชว์ฟอร์มดีที่ยุโรปที่เข้าถึงรอบ Quarters ได้ถึง 3 รายการ และได้โควตาโอลิมปิกคู่ที่ 11 ในประเภทชายคู่

ประเภทหญิงคู่ “กิ๊ฟ-วิว” จงกลพรรณ กิติธรากุล / รวินดา ประจงใจ หญิงคู่มือ 10 ของโลก ได้โควตาที่ 8 ส่วน”มูนา-อันนา”เบญญาภา เอี่ยมสอาด / นันทกาญจน์ เอี่ยมสะอาด น่าเสียดายที่การบาดเจ็บทำให้พลาดการแข่งขันและทำผลงานไม่ได้หลายรายการจนอันดับโลกไม่ขยับได้ตามที่คาดหวัง
   

ปิดท้ายประเภทคู่ผสม แน่นอนว่า “บาส-ปอป้อ” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ / ทรัพย์สิรี แต้รันชัย อดีตแชมป์โลกที่ฟอร์มช่วงหลังไม่สม่ำเสมอ แต่ก็ยังดีพอที่จะรักษาโควตาที่ 5 ที่จะไปโอลิมปิกได้

ถือเป็นอีกครั้งที่นักกีฬาไทยได้ไปโอลิมปิกครบทุกประเภท แต่ยังมีการแข่งขันอีกรายการที่อาจจะทำให้โควตาเปลี่ยนแปลงที่จะต้องรอดูว่าศึกชิงแชมป์เอเชียสัปดาห์หน้า นักกีฬาไทยจะทำได้ดีแค่ไหน