แล้วการแข่งขันแบดมินตันรายการ YONEX All England Open 2018 ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับ HSBC BWF World Tour Super 1000 ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐที่เมือง Birmingham ประเทศอังกฤษ ก็จบลงโดยสมบูรณ์แบบ และถือเป็นความสำเร็จของ”แบดมินตัน”
 

ความสำเร็จที่ว่า นั่นคือในภาพรวมของการจัดการแข่งขัน ภาพที่ปรากฏให้เห็นว่ามีผู้ชมเต็มสนามแทบทุกวันของการแข่งขัน แสดงให้เห็นถึงความนิยมในกีฬานี้ในอังกฤษ และความสำเร็จของ All England ที่เป็นการแข่งขันแบดมินตันที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ในส่วนของการแข่งขัน การคว้าแชมป์ของนักกีฬาแบดมินตันจาก 5 ประเทศใน 5 ประเภทของการแข่งขัน แสดงให้เห็นถึง”ความสำเร็จ”ในการพัฒนากีฬานี้ในหลายประเทศ ที่ไม่มีการผูกขาดจากชาติใดชาติหนึ่งอีกต่อไป

สำหรับผลการแข่งขัน เริ่มที่”ชายเดี่ยว” ซึ่งเป็นการชิงชนะเลิศกันเองของนักกีฬาจากจีน และ SHI Yuqi รองแชมป์ปีก่อน ในฐานะมือวางอันดับ 7 ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที เอาชนะ LIN Dan อดีตแชมป์ 6 สมัย 2-1 เกม 21-19 ,16-21, 21-9 ก็ยังแสดงให้เห็นว่า”จีน” ยังเป็นชาติที่มีนักกีฬาชายเดี่ยวไม่เป็นรองชาติไหน
 

แถมในรอบรองชนะเลิศ ก็ยังมี HUANG Yuxiang นักแบดมินตันชายเดี่ยวอีกคน ที่ผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ ก็ยิ่งชี้ให้เห็นว่า จีนมีนักแบดมินตันชายเดี่ยว”คลื่นลูกใหม่” ที่พร้อมจะมาแทนรุ่นพี่เสมอ

ในประเภทหญิงเดี่ยว TAI Tzu Ying นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวมือ 1 โลกจากไต้หวัน ป้องกันแชมป์สำเร็จเมื่อเอาชนะ Akane YAMAGUCHI นักแบดมินตันมือ 2 โลกจากญี่ปุ่น 22-20 , 21-13
 

ชัยชนะที่ดู”ง่ายดาย” อาจจะเป็นเพราะในรอบรอง Akane YAMAGUCHI ต้องเล่นนานถึง 80 นาที กว่าจะชนะ PUSARLA V. Sindhu รองแชมป์โลกจากอินเดีย 2-1 เกม 19-21, 21-19 , 21-18 ขณะที่ TAI Tzu Ying ใช้เวลาเพียง 64 นาที เอาชนะนักกีฬาจีน CHEN Yufei มาในรอบเดียวกัน แถมเป็นการแข่งรอบเช้าที่ได้พักผ่อนก่อน

 

แต่ 4 คนสุดท้ายหญิงเดี่ยวที่มีนักกีฬาจาก 4 ชาติถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ไม่มีการผูกขาด แม้”จีน”อาจจะยังไม่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับใหญ่ แต่ผลงานที่มาถึงจุดนี้ก็ไม่สามารถมองข้ามได้

 

ในประเภทชายคู่ Marcus Fernaldi GIDEON - Kevin Sanjaya SUKAMULJO นักแบดชายคู่มือ 1 โลกและแชมป์เก่าจากอินโดนีเซีย ป้องกันแชมป์สำเร็จ โดยชนะ Mathias BOE - Carsten MOGENSEN อดีตแชมป์ 2 สมัยจากเดนมาร์คไม่ยากนัก 21-18 , 21-17 ถือเป็นความสำเร็จของนักกีฬาจากอินโดนีเซีย

 

ขณะที่ผู้พ่ายแพ้รอบรอง เป็น Hiroyuki ENDO - Yuta WATANABE จากญี่ปุ่น และ  Mads CONRAD-PETERSEN - Mads Pieler KOLDING จากเดนมาร์ค ก็แสดงให้เห็นว่า ทั้ง 2 ชาติยังมีนักแบดมินตันชายคู่มือดี ส่วน”จีน”นักกีฬาที่ผ่านมาถึงรอบลึกที่สุดคือ LI Junhui - LIU Yuchen ที่เข้ามาถึงรอบ 8 คนสุดท้าย ขณะที่”เกาหลี”ที่ผ่านการคัดเลือกมาเพียงคู่เดียวคือ KIM Won Ho - Seung Jae SEO กลับตกรอบแรก

ส่วนในประเภทหญิงคู่ Kamilla Rytter JUHL - Christinna PEDERSEN สามารถคว้าแชมป์เป็นครั้งแรก เมื่อใช้เวลา 1 ชั่วโมงเต็ม เอาชนะ Yuki FUKUSHIMA - Sayaka HIROTA 2 เกมรวด 21-19 , 21-18 และการร่ำไห้กลางสนามหลังคว้าแชมป์ แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของรายการนี้ ทั้งๆที่ทั้งคู่เคยคว้าแชมป์มาแล้วในทุกภูมิภาคที่ไปแข่งขัน
 

เมื่อมองไปถึงรอบรองชนะเลิศ ที่ผู้พ่ายเป็น 2 คู่จากญี่ปุ่น คือ Mayu MATSUMOTO - Wakana NAGAHARA และ Shiho TANAKA - Koharu YONEMOTO ก็แสดงให้เห็นว่า”ญี่ปุ่น”คือชาติที่ยิ่งใหญ่ในทีมหญิงมากแค่ไหน และน่าจะเป็นคำถามไปถึงทีมชาติจีน ที่ไม่มีนักกีฬาหญิงคู่ผ่านมาถึงรอบรองชนะเลิศแม้แต่คู่เดียว

 

ปิดทายในประเภทคู่ผสม ซึ่งคู่วัยรุ่นจากญี่ปุ่น Yuta WATANABE - Arisa HIGASHINO พลิกล็อคเอาชนะ ZHENG Siwei - HUANG Yaqiong 2-1 เกม 15-21, 22-20 , 21-16 แสดงถึงความสำเร็จที่น่าชื่นชมของญี่ปุ่น ที่ต้องยกเครดิตให้ Jeremy Gan โค้ชคู่ผสมชาวมาเลย์ที่สร้างความสำเร็จให้มาเลเซียจนมีนักแบดมินตันประเภทคู่ผสมมือดีมากมาย ที่เพิ่งมารับตำแหน่งผู้ดูแลนักกีฬาคู่ผสมญี่ปุ่นเมื่อต้นปี

 

ขณะที่ผู้แพ้ในรอบรองชนะเลิศ คือ ZHANG Nan - LI Yinhui จากจีน และ Mathias CHRISTIANSEN - Christinna PEDERSEN จากเดนมาร์ค ก็ยังมองได้ว่า แม้จะมาถึงรอบลึก แต่การที่นักกีฬาต้องเล่น 2 ประเภท มันบ่งบอกว่าทีมชาติยังขาดผู้เล่นในประเภทนี้

 

ความสำเร็จของการแข่งขัน ที่บ่งบอกว่า”แบดมินตัน” คือกีฬามหาชนประเภทใหม่ ทำให้หลายชาติต้องเร่งพัฒนายกระดับนักกีฬา เพื่อชิงชัยและคว้าแชมป์ในการแข่งขันต่างๆมากมายหลายรายการ นักกีฬาไทยก็เป็นหนึ่งในนักแบดมินตันระดับโลกที่แฟนแบดมินตันไทยทุกคนพร้อมที่จะส่งกำลังใจให้ลงชิงชัยเสมอ